วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์
(Product Life Cycle หรือ PLC )
(Product Life Cycle หรือ PLC )
วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ หมายถึง ขั้นตอนหรือประวัติการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์ที่แสดงในรูปของยอดขายและกำไร สินค้าทุกชนิดเมื่อเข้าสู่ตลาดจะมีประวัติการเจริญเติบโตของยอดขายทั้งสิ้น เริ่มต้นจากขั้นแนะนำ เข้าสู่ขั้นเจริญเติบโต ขั้นอิ่มจนถึงขั้นถดถอย
1. ขั้นแนะนำ (Introduction Stage) เป็นขั้นนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด สินค้าทุกชนิดเมื่อเริ่มเข้าสู่ตลาดเป็นครั้งแรกก็จะต้องเริ่มต้นด้วยขั้นนี้ ซึ่งเป็นขั้นที่กิจการต้องทุ่มงบประมาณทั้งด้านการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการขาย และการขายโดยใช้พนักงานขายสูงมาก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค
นักการตลาดต้องบอกให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้โดยผ่านสื่อต่าง ๆ ว่าเราเป็นสินค้าอะไร มีชื่อยี่ห้อว่าอะไร รูปแบบบรรจุภัณฑ์เป็นแบบไหน หาซื้อได้ที่ไหน เมื่อผู้บริโภคซื้อไปแล้วจะได้รับประโยชน์อะไรจากการใช้สินค้าเรา เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ เกิดความสนใจ อยากทดลองใช้และเกิดพฤติกรมการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ
2. ขั้นเจริญเติบโต (Growth Stage) เป็นขั้นที่ตลาดมีการยอมรับผลิตภัณฑ์ ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นช่วงที่กำไรเริ่มปรากฏซึ่งบริษัทจะได้กำไรอย่างมาก ขณะเดียวกัน คู่แข่งขันจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดมากขึ้น บริษัทต้องพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มากที่สุด
ในขั้นตอนนี้นักการตลาดสามรถลดค่าใช้จ่ายด้านการส่งเสริมการตลาดลงได้หากกิจการต้องการประหยัดงบประมาณ แต่มิใช่การหยุดโฆษณาเพียงแต่สามารถลดความถี่ในการลงโฆษณาลงได้ เพราะเป็นช่วงที่สินค้าเรากำลังติดตลาดและทำกำไรได้ดี
3. ขั้นอิ่มตัว (Maturity Stage) หลังจากตลาดเจริญเติบโตก็จะเข้าสู่ขั้นอิ่มตัว จึงเป็นช่วงที่มีคู่แข่งขันเข้ามาในตลาดมาก ทั้งยังเป็นช่วงที่มีกำไรสูงสุดและเริ่มลดลงเล็กน้อยเนื่องจากมีการต่อสู้กับสินค้าคู่แข่ง
ขั้นอิ่มตัวหากกิจการมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องก็จะสามารถรักษาส่วนครองตลาดได้ ซึ่งนักการตลาดจะต้องหักมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้เพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งโดยควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รุ่นใหม่ สีใหม่ กลิ่นใหม่ รสชาติใหม่ให้แตกต่างจากของคู่แข่งในตลาด ก็จะสามารถป้องกันไม่ให้ยอดขายของผลิตภัณฑ์ลดลงไปถึงขั้นตกต่ำ แต่กลับจะรักษาส่วนครองตลาดได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
4. ขั้นถดถอย (Decline Stage) เป็นช่วงที่ยอดขายลดลงและกำไรเริ่มเป็นศูนย์ หากกิจการไม่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น ยอดขายก็จะลดลงถึงขั้นตกต่ำและสินค้าก็จะต้องตายไปจากตลาด เนื่องจากสินค้าขายไม่ได้หรือขายได้ก็เพียงเล็กน้อยโดยไม่ได้กำไรเลย กิจการก็ไม่สามารถอยู่ได้ จึงควรปล่อยให้สินค้านั้นตายไปจากตลาด
สิ่งที่นักการตลาดควรกระทำก็คือ การลดงบประมาณการโฆษณาลง และหันไปทำการส่งเสริมการขายด้วยการลดราคาสินค้า เพราะอย่างน้อยสินค้าที่ด้อยคุณภาพหรือล้าสมัยจนเสียชื่อเสียงไปแล้วอาจจะยังขายได้กับกลุ่มผู้ที่ต้องการสินค้าราคาประหยัดหรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
ผลิตภัณฑ์บางชนิดเมื่อเริ่มเข้าสู่ตลาดครั้งแรกในช่วงแนะนำ ก็เข้าสู่ขั้นถดถอยโดยไม่ผ่านขั้นตอนอื่นเลย สาเหตุอันเนื่องมาจากการไม่ศึกษาความต้องการของตลาด แต่ผลิตภัณฑ์บางชนิดก็รักษาส่วนครองตลาดได้ดีเป็นระยะเวลายาวนานโดยไม่มาถึงขั้นถดถอยนี้เลย เพราะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องและมีการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา
ผลิตภัณฑ์บางชนิดที่เคยตายไปแล้วจากตลาดและมีความต้องการอยากนำกลับเข้ามาขายในตลาดอีกครั้งหนึ่ง โดยคิดว่าสินค้านั้นเคยขายได้ดีและผู้บริโภคเคยรู้จักชื่อสินค้าแล้ว อาจทำให้สินค้านั้นขายไม่ได้เลยเพราะผู้บริโภคจดจำได้ว่าสินค้านั้นเป็นสินค้าด้อยคุณภาพหรือล้าสมัยกิจการก็ไม่ควรพยายามนำกลับเข้ามาใสตลาดอีก แต่ควรพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่โดยอาจเปลี่ยนชื่อสินค้าใหม่ไปเลยจะดีกว่า และเริ่มเข้าสู่ขั้นแนะนำใหม่ โอกาสที่จะเข้าสู่ขั้นเจริญเติบโต ขั้นอิ่มตัวก็จะยังมีมากกว่าการนำสินค้าใหม่ก็จะทำให้สินค้านั้นเริ่มสร้างตัวเองเป็นวัฏจักรวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง
ที่มา : http://www.staq.co.th
www.wcs.ac.th/material/e-books.doc
มาเจิม ๆ *
ตอบลบเนื้อหาดี บลอคสวยครับ
บลอคสวยนะเฮีย
ตอบลบเนื้อหาเข้าใจง่ายดีค่ะ
เนื้อหากระชับ
ตอบลบมีประโยชน์
ตกแต่งเรียบง่ายมากคะ(51152793095)
เนื้อหาตรงกับวิชานโยบายเลย
ตอบลบสามารถเป็นเนื้อหาให้เพื่อนก่อนสอบได้เลย
ขอบคุณนะเพื่อน
ดีครับเพื่อน
ตอบลบเนื่อหาสวยดีครับเพื่อย
อ่านสบายตาดีครับ
สบายตาดีนะ !
ตอบลบเนื้อหาดี
เนื้อหาน่าสนใจมากๆๆ
ตอบลบ-*-
ตอบลบสงสัยเพิ่งจะคลอด
ทำไมความคิดเห็น
จากเพื่อนน้อยจัง
รูปก็ไม่มี------
จะหาคะแนนจากไหนมา..
ช่วย...ดีเนี่ยยยยยยยยย